ลำไยมีกรดเอลลาจิกแล้วเกี่ยวอะไรกับเครื่องสำอางและเซลล์มะเร็ง

ปกติเราจะรู้จักลำไยเฉพาะเป็นผลไม้ที่หาทานได้ตามฤดูกาล หรือตามท้องตลาดทั่วไป การกินลำไยถ้าสอบถามคนทั่วไปจะบอกว่าไม่ค่อยชอบกินเท่าไหร่ ชอบกินผลไม้ชนิดอื่นมากกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยทราบคือ ทั้งใบของลำไย ผลของลำไย มีส่วนประกอบของกรดที่มีชื่อว่า กรดเอลลาจิก ซึ่งเป็นกรดที่มีสรรพคุณในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งยังเป็นกรดที่นำไปเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางเพื่อให้ผิวพรรณของคุณดูชุ่มชื่น นุ่มนวลได้อีกด้วย และเจ้ากรดชนิดนี้ได้มีการทดลองจากห้องวิจัยหลายแห่ง ทั้งในและนอกประเทศ พบว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง และยับยังการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งอีกด้วย ขอสาระนิดนึงนะคะ จากที่อ้อมได้ศึกษามาได้ข้อมูลมาว่า 

ลำไยมีกรดเอลลาจิกแล้วเกี่ยวอะไรกับเครื่องสำอางและเซลล์มะเร็ง

ลำไยมีกรดเอลลาจิกแล้วเกี่ยวอะไรกับเครื่องสำอางและเซลล์มะเร็ง

โครงสร้างของกรดเอลลาจิกเป็นโมเลกุลที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ และอยู่ในรูปของเอลลาจิแทนนิน โดยกรดเอลลาจิกที่ว่า หากในต่างประเทศจะพบได้จากผลราสพ์เบอร์รี่ที่สุก ส่วนในประเทศไทยมีการวิจัยจากงานวิจัยวิชาพืชศาสตร์ และทรัพยากรธรรมชาติ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการสกัดกรดเอลลาจิกจากใบอ่อนของลำไย และใบแก่ของลำไย และส่วนต่างๆ ของผลลำไยอบแห้งพันธุ์อีดอ ย้ำเฉพาะพันธุ์อีดอนะคะ ส่วนพันธุอื่นๆ ยังไม่ได้มีรายงานการวิจัยออกมา หรืออ้อมอาจจะยังหาข้อมูลไม่เจอก็เป็นได้ แหะๆ  
ผลการศึกษาพบว่าในใบอ่อนของลำไย มีปริมาณกรดเอลลาจิก มากกว่าในใบแก่ โดยมีปริมาณเป็น 29.6 และ 13.4 มก./ก. ตามลำดับ 
ส่วนในผลลำไยเปลือก เนื้อ และเมล็ด จะมีปริมาณกรดเอลลาจิกเป็น 2.96 1.77 และ 0.99 มก./ก. ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น ที่มีปริมาณกรดเอลลาจิก ได้แก่ 

• ราสพ์เบอร์รี่ 1.50 มก./ก. 
• แบล็กเบอร์รี่ 1.50 มก./ก. 
• สตรอเบอร์รี่ 0.63 มก./ก. 
• วอลนัต 0.59 มก./ก. และ
• แครนเบอร์รี่ 0.12 มก./ก. 

จะเห็นได้ว่าลำไยมีสารเอลลาจิกสูงมากกว่า ดังนั้นการบริโภคลำไยอบแห้งจึงเป็นการเพิ่มสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต่อการเกิดมะเร็ง ให้แก่ร่างกายได้ เรื่องวิธีการกินได้แนะนำไปแล้วในบทความก่อนหน้า "ลำไยกินดี รสอร่อย ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ แปรรูปได้หลากหลาย" สามารถเข้าไปดูกันก่อนได้ บอกแล้วกินลำไย อร่อยแถมได้ประโยชน์

ส่วนในเรื่องของความงามกรดเอลลาจิกยังมีสรรพคุณในการทำให้ผิวพรรณของเรา อ่อนนุ่ม และขาวนวลชุ่มชื้นได้อีกด้วย จึงทำให้มีการพัฒนาสารสกัดกรดเอลลาจิกและทำให้อยู่ในรูปของเครื่องสำอางที่สามารถใช้งานได้ด้วย 

มาถึงบทความนี้สำหรับใครที่กำลังติดตามบล็อคลำไย ลำพูนที่อ้อมได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ และอยากให้หลายๆ คนกันมาบริโภคลำไยกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะลำไยอบแห้งที่มีสรรพคุณทางยาหลายๆ อย่าง กินก็อร่อย ได้ประโยชน์หลายอย่าง หากคุณเป็นคนที่กำลังห่วงสุขภาพ แนะนำให้มองหาลำไยทั้งแบบสด และแบอบแห้งมาไว้ทานกันนะคะ แต่ย้ำว่าแบบสดควรกินแบบพอเหมาะพอควรนะคะ วันละ 4-5 ลูกก็โอแล้วจ้าเดี๋ยวจะมีน้ำตาลในเลือดเกินนะคะ ด้วยความห่วงใยจ้า

;