สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่และกังวลว่าการกินลำไยจะไปทำให้น้ำหนักเพิ่มตรงนี้สบายใจกันได้เลยจ้า นอกจากสรรพคุณหลายๆ อย่างที่ได้บอกเล่ามาในบทความครั้งก่อนหน้า ถ้าจะไม่พูดถึงคุณค่าทางอาหารของลำไยก็คงกะไรอยู่ ดังนั้นบทความนี้อ้อมคงจะมาแยกย่อยลงไปอีก เกี่ยวกับคุณค่าทางสารอาหารที่เราจะได้รับเมื่อรับประทานลำไยในอัตราส่วนที่เหมาะสม บางคนอ่านมาถึงตรงนี้คงสงสัยว่าอัตราส่วนที่เหมาะสมคืออะไร แล้วเราต้องกินเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสม
ลำไยถือเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันแบบผลสดๆ เพราะมีรสชาติที่หวาน น่ารับประทานมากกว่าแบบอบแห้ง ลักษณะทั่วไปของผลลำไยที่มีคุณภาพ จะต้องมีเนื้อหนา เมล็ดเล็ก มีรสชาติหวานกรอบ ตัวเนื้อลำไยจะต้องไม่แฉะ ส่วนของเนื้อลำไยจะมีทั้งสีขาวอมชมพู หรือขาวอมเหลืองแล้วแต่สายพันธุ แต่ทุกพันธุอร่อยใช้ได้เลยจ้า
นอกจากจะรับประทานผลสดแล้ว เนื้อลำไยยังสามารถนำมา แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ลำไยอบแห้ง ลำไยดอง ลำไย กวนปรุงรส ลำไยแช่อิ่ม น้ำลำไยผง น้ำ
ลำไยสด น้ำลำไยแห้ง ลำไยกวน ลำไยกระป๋อง หรือบรรจุขวดในน้ำเชื่อม นอกจากนี้ยังทำเป็นอาหารคาว หวาน ยกตัวอย่างเช่น ข้าวต้มลำไย ข้าวเหนียวเปียกลำไย คุกกี้ลำไย
เค้กลำไย พายลำไย ขนมปังลำไย แกงเผ็ดลำไย แกงจืดลำไย ลำไยสอดไส้ เป็นต้น
แค่ชื่อของลำไยที่สามารถนำไปแปรรูปแล้ว ก็คิดถึงความอร่อยขึ้นมาทันใด แล้วการรับประทานให้เหมาะสมตามอัตราส่วนที่ว่า มันคืออะไร แล้วกินเท่าไหร่ถึงจะดีไปดูกันค่ะ
การรับประทานลำไย แบบปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้บริโภคเพียง 1-2 ส่วนของการบริโภคผลไม้ ในแต่ละวัน เพราะตามหลักโภชนาการที่แนะนำไว้นั้น คนเราควรกินผลไม้ 4-5 ส่วนต่อวัน และ ผลไม้ที่กินควรจะมี
ความหลากหลาย โดยใน 1 ส่วนที่กล่าวถึงนี้ อาจเป็นสับปะรด 6 ชิ้น มะละกอ 6 ชิ้น แตงโม 3 ชิ้น เงาะ 4 ผล ชมพู่ 2 ผล มะม่วงสุก 1/2 ผล ซึ่งในกรณีที่บริโภคแต่ลำไย 1 ส่วนของการบริโภคผลไม้ จะเท่ากับลำไยประมาณ 6 ผลใหญ่ หรือ จำนวนประมาณ 10 ผลเล็ก
ดังนั้นถ้าหากเราจะกินแต่ลำไยเพียงอย่างเดียว ตามสัดส่วนที่ กำหนดในหนึ่งวัน ก็ไม่ควรเกิน 30 ผลใหญ่ 50 ผลเล็ก แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถกินลำไยได้ครั้ง 30 หรือ 50 ผล เพราะถ้าเรากินมากขนาดนี้จะทำให้ร่างกายร้อนมาก อาจจะเกิดอาการร้อนในได้ และในทางการแพทย์ แผนไทยก็ไม่แนะนำให้กินอย่างเดียว แต่ควรกินผลไม้อย่างอื่นด้วย ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเรามีชมพู่ เงาะ สับปะรด ลำไย ในตู้เย็น ก็ควรกินชมพู่ 2 ผล เงาะ 1 ผล สับปะรด 6 ชิ้น และลำไย 12 ผล (2 ส่วน) เป็นต้น ซึ่งจะทำไห้ได้ผลไม้ทั้งหมดนี้ เท่ากับ 5 ส่วนของอาหารที่ร่างกายเราควรจะได้รับ
แต่ถ้าคุณกำลังต้องการลดความอ้วน ก็ควรกินข้าวให้น้อยลง เช่น กินไม่เกิน 4 ทัพพี สำหรับคนปกติ ส่วนคนที่เป็นโรคเบาหวานก็ให้ลดปริมาณลง และกินลำไยไม่ควรเกิน 6 ผล แล้วหันมากินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน รวมไปถึงลดปริมาณการรับประทานข้าวลง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถรักษาหุ่นสวย หรือลดน้ำหนักได้อย่างสบายๆ แถมยังอร่อยกับผลไม้ที่มีคุณประโยชน์หลากหลายชนิดอีกด้วยนะ
ลำไยถือเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันแบบผลสดๆ เพราะมีรสชาติที่หวาน น่ารับประทานมากกว่าแบบอบแห้ง ลักษณะทั่วไปของผลลำไยที่มีคุณภาพ จะต้องมีเนื้อหนา เมล็ดเล็ก มีรสชาติหวานกรอบ ตัวเนื้อลำไยจะต้องไม่แฉะ ส่วนของเนื้อลำไยจะมีทั้งสีขาวอมชมพู หรือขาวอมเหลืองแล้วแต่สายพันธุ แต่ทุกพันธุอร่อยใช้ได้เลยจ้า
กำลังลดน้ำหนักกินลำไยได้ไหม? |
กำลังลดน้ำหนักกินลำไยได้ไหม?
ลำไยมีสารอาหารมากมายหากรับประทานตามสัดส่วนที่พอเหมาะสม ทุกครั้งเราจะได้รับสารอาหารดังนี้ น้ำตาลกลูโคส ซูโครส ฟรักโทส และวิตามินชนิดต่างๆ ที่มาพร้อมกับความอร่อย ยกตัวอย่างเช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 และบี 2 สูง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ที่จะช่วยบำรุงกระดูก และฟัน ยังไม่หมดจ้าการกินลำไยยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือดนอกจากจะรับประทานผลสดแล้ว เนื้อลำไยยังสามารถนำมา แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ลำไยอบแห้ง ลำไยดอง ลำไย กวนปรุงรส ลำไยแช่อิ่ม น้ำลำไยผง น้ำ
กำลังลดน้ำหนักกินลำไยได้ไหม? |
เค้กลำไย พายลำไย ขนมปังลำไย แกงเผ็ดลำไย แกงจืดลำไย ลำไยสอดไส้ เป็นต้น
แค่ชื่อของลำไยที่สามารถนำไปแปรรูปแล้ว ก็คิดถึงความอร่อยขึ้นมาทันใด แล้วการรับประทานให้เหมาะสมตามอัตราส่วนที่ว่า มันคืออะไร แล้วกินเท่าไหร่ถึงจะดีไปดูกันค่ะ
การรับประทานลำไย แบบปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้บริโภคเพียง 1-2 ส่วนของการบริโภคผลไม้ ในแต่ละวัน เพราะตามหลักโภชนาการที่แนะนำไว้นั้น คนเราควรกินผลไม้ 4-5 ส่วนต่อวัน และ ผลไม้ที่กินควรจะมี
ความหลากหลาย โดยใน 1 ส่วนที่กล่าวถึงนี้ อาจเป็นสับปะรด 6 ชิ้น มะละกอ 6 ชิ้น แตงโม 3 ชิ้น เงาะ 4 ผล ชมพู่ 2 ผล มะม่วงสุก 1/2 ผล ซึ่งในกรณีที่บริโภคแต่ลำไย 1 ส่วนของการบริโภคผลไม้ จะเท่ากับลำไยประมาณ 6 ผลใหญ่ หรือ จำนวนประมาณ 10 ผลเล็ก
ดังนั้นถ้าหากเราจะกินแต่ลำไยเพียงอย่างเดียว ตามสัดส่วนที่ กำหนดในหนึ่งวัน ก็ไม่ควรเกิน 30 ผลใหญ่ 50 ผลเล็ก แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถกินลำไยได้ครั้ง 30 หรือ 50 ผล เพราะถ้าเรากินมากขนาดนี้จะทำให้ร่างกายร้อนมาก อาจจะเกิดอาการร้อนในได้ และในทางการแพทย์ แผนไทยก็ไม่แนะนำให้กินอย่างเดียว แต่ควรกินผลไม้อย่างอื่นด้วย ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเรามีชมพู่ เงาะ สับปะรด ลำไย ในตู้เย็น ก็ควรกินชมพู่ 2 ผล เงาะ 1 ผล สับปะรด 6 ชิ้น และลำไย 12 ผล (2 ส่วน) เป็นต้น ซึ่งจะทำไห้ได้ผลไม้ทั้งหมดนี้ เท่ากับ 5 ส่วนของอาหารที่ร่างกายเราควรจะได้รับ
แต่ถ้าคุณกำลังต้องการลดความอ้วน ก็ควรกินข้าวให้น้อยลง เช่น กินไม่เกิน 4 ทัพพี สำหรับคนปกติ ส่วนคนที่เป็นโรคเบาหวานก็ให้ลดปริมาณลง และกินลำไยไม่ควรเกิน 6 ผล แล้วหันมากินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน รวมไปถึงลดปริมาณการรับประทานข้าวลง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถรักษาหุ่นสวย หรือลดน้ำหนักได้อย่างสบายๆ แถมยังอร่อยกับผลไม้ที่มีคุณประโยชน์หลากหลายชนิดอีกด้วยนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น